ท่ามกลางการแข่งขันระดับโลกที่ทวีความเข้มข้นด้านสิทธิทางทะเล เรดาร์ตรวจการณ์ชายฝั่งได้กลายเป็นทรัพย์สินเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญสำหรับการปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมรบทางทะเลข้ามชาติของฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ หรือการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีความมั่นคงทางทะเลของญี่ปุ่น—ทั้งหมดสะท้อนถึงความซับซ้อนและความเร่งด่วนของสถานการณ์ความมั่นคงทางทะเลในปัจจุบัน ในฐานะประเทศทางทะเลขนาดใหญ่ จีนได้สร้างระบบป้องกันชายฝั่งแบบหลายมิติและตลอดสภาพอากาศ โดยเรดาร์ตรวจการณ์ชายฝั่งทำหน้าที่เป็น “ดวงตาและหูอิเล็กทรอนิกส์” ที่ขาดไม่ได้ของระบบนี้
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสำคัญของเรดาร์ตรวจการณ์ชายฝั่ง
หลังจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องหลายทศวรรษ ระบบเรดาร์ตรวจการณ์ชายฝั่งของจีนได้บรรลุความสามารถด้านการครอบคลุม การตอบสนองอย่างแม่นยำ และการประสานงานอัจฉริยะ โดยมีเทคโนโลยีหลักหลายด้านที่เทียบเท่าหรือเหนือกว่ามาตรฐานสากล
เรดาร์คลื่นผิวความถี่สูง (High-Frequency Surface Wave Radar)
เรดาร์ประเภทนี้ใช้คุณสมบัติการเลี้ยวคลื่นของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าบนผิวน้ำทะเล เพื่อให้สามารถตรวจจับเกินขอบฟ้าในระยะ 300–400 กิโลเมตร ระบบดังกล่าวถูกติดตั้งในหลายมณฑลชายฝั่งของจีน เช่น ซานตง เจ้อเจียง และกวางตุ้ง เพื่อเฝ้าระวังกิจกรรมทางทะเลในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น ระบบเรดาร์คลื่นผิวความถี่สูงบนเกาะผิงถาน มณฑลฝูเจี้ยน สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของเรือในช่องแคบไต้หวันแบบเรียลไทม์ ในเดือนมิถุนายน 2025 ระบบสามารถตรวจจับและติดตามเรือลาดตระเวนของฟิลิปปินส์ที่ปิดสัญญาณ AIS ได้สำเร็จ พร้อมส่งพิกัดที่แม่นยำให้กับหน่วยยามฝั่งของจีนเพื่อสกัดกั้นอย่างแม่นยำ
เรดาร์เฟสอาเรย์ (Phased Array Radar)
เรดาร์เฟสอาเรย์ใช้เทคโนโลยีเสาอากาศแบบอาร์เรย์เฟสที่สามารถควบคุมเฟสของสัญญาณในแต่ละองค์ประกอบเพื่อสแกนลำคลื่นด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ มีข้อได้เปรียบในด้านความเร็วสูงและความสามารถในการติดตามหลายเป้าหมายพร้อมกัน แตกต่างจากเรดาร์แบบหมุนกลไก เรดาร์ชนิดนี้ใช้หน่วยส่ง-รับสัญญาณอิสระหลายพันหน่วยในการควบคุมลำคลื่น ทำให้ประสิทธิภาพการตรวจจับและความสามารถในการต้านการรบกวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก

เรดาร์ซีรีส์ XW/SR237 ที่พัฒนาโดยบริษัทหวู่ฮั่น ลาเคด้า ใช้ระบบสแกนมุมอะซิมัทที่สามารถปรับระยะตรวจจับได้ตั้งแต่ 1.2 ถึง 8 กิโลเมตรตามสถานการณ์การใช้งาน ระบบนี้มีความเสถียรสูงและอัตรารีเฟรชข้อมูลรวดเร็ว เหมาะสำหรับการติดตามเป้าหมายที่เคลื่อนที่เร็ว เช่น เรือสปีดโบ๊ทหรือเรือ “Da Fei” และสามารถนำไปใช้ในสถานที่สำคัญ เช่น สถานีไฟฟ้าย่อย ศูนย์ควบคุมทัณฑสถาน ท่อส่งน้ำมัน สนามบิน และแนวรถไฟ

เรดาร์ย่าน S-band ที่พัฒนาโดยกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ของจีน (CETC) สามารถติดตามเป้าหมายได้สูงสุดถึง 150 เป้าหมายพร้อมกัน ตั้งแต่ขีปนาวุธต่อต้านเรือที่เดินทางด้วยความเร็ว Mach 3 ไปจนถึงเรือประมงที่เคลื่อนที่เพียง 5 นอต ในการฝึกซ้อมร่วมทะเลจีนใต้ปี 2025 เรดาร์นี้สามารถล็อกเป้าหมายเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Roosevelt พร้อมติดตามเรือคุ้มกัน 12 ลำ และเครื่องบินขับไล่ 24 ลำ ด้วยอัตรารีเฟรชเพียง 0.1 วินาทีต่อรอบ เพิ่มขีดความสามารถในการตอบสนองของกองเรือจีนอย่างมหาศาล
เรดาร์เฟสอาเรย์ที่ติดตั้งเทคโนโลยี Adaptive Beamforming สามารถระบุและตอบสนองต่อสัญญาณรบกวนกว่า 200 รูปแบบภายใน 0.05 วินาที ในปี 2024 เมื่อเรือตำรวจชายฝั่งฟิลิปปินส์พยายามใช้เครื่องรบกวนอิเล็กทรอนิกส์จากอิสราเอลใกล้เกาะหวงเหยียน เรดาร์ชายฝั่งของจีนยังคงติดตามเป้าหมายได้อย่างเสถียรด้วยเทคนิคการลดสัญญาณข้าง (Sidelobe Suppression) ข้อมูลสเปกตรัมที่บันทึกไว้ยังถูกนำมาใช้เป็นหลักฐานสำคัญในการเจรจาทางการทูตภายหลัง

แนวโน้มการพัฒนาในอนาคต
เพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามทางทะเลที่ซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น เรดาร์ตรวจการณ์ชายฝั่งจะพัฒนาไปในทิศทางหลักสามประการ:
สร้างเครือข่ายเฝ้าระวังแบบ “อากาศ-อวกาศ-พื้นดิน-ทะเล” ที่บูรณาการกัน: ผสานการทำงานของดาวเทียมตรวจจับระยะไกล UAV และเรดาร์ภาคพื้น เพื่อสร้างระบบรับรู้สถานการณ์แบบหลายมิติ เช่น การประสานข้อมูลระหว่างดาวเทียม Gaofen-3 กับเรดาร์ภาคพื้นสามารถให้ข้อมูลสถานการณ์ทางทะเลแบบเรียลไทม์ สนับสนุนการตัดสินใจด้านความมั่นคง
ส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเชิงวิศวกรรม: เร่งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น เรดาร์ควอนตัมและเรดาร์เทราเฮิรตซ์ เพื่อเอาชนะข้อจำกัดของเรดาร์แบบดั้งเดิมในการตรวจจับเป้าหมายพรางตัวและการทำงานในสภาพสัญญาณรบกวนสูง
เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศและการแบ่งปันข้อมูล: จัดตั้งกลไกการแบ่งปันข้อมูลเรดาร์และการบังคับใช้กฎหมายร่วม เพื่อรับมือกับอาชญากรรมข้ามพรมแดน เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลเรดาร์ระหว่างจีนและประเทศอาเซียนได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการลาดตระเวนร่วมประจำ
บทสรุป
ตั้งแต่การเฝ้าระวังแม่น้ำแยงซีไปจนถึงแนวป้องกันอธิปไตยในทะเลจีนใต้ เรดาร์ตรวจการณ์ชายฝั่งกำลังนิยามการบริหารจัดการทางทะเลใหม่ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ การเปลี่ยนจาก “การป้องกันเฉพาะจุด” สู่ “การปฏิบัติการเชิงระบบ” สะท้อนให้เห็นถึงทั้งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและยุทธศาสตร์ในการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ทางทะเลของชาติ เมื่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และคอมพิวเตอร์ควอนตัมถูกรวมเข้าด้วยกันอย่างลึกซึ้ง เรดาร์ตรวจการณ์ชายฝั่งจะค่อย ๆ พัฒนาเป็น “สมองอัจฉริยะ” สำหรับความมั่นคงทางทะเล นำไปสู่ก้าวใหม่แห่งการปกป้องดินแดนสีน้ำเงินของจีน